ภาพยนตร์โฆษณา - ต่อต้านคอร์รัปชั่น

29/1/55

มงคลชีวิต ๓๘ ประการ


       มงคลชีวิต ๓๘ ประการ


มงคล คือ เหตุแห่งความเจริญ หรือเครื่องหมายแห่งความเจริญ
มงคลในศาสนาพุทธ
มงคลในศาสนาพุทธ คือ การนิมนต์ขอให้พระภิกษุสวดมงคลสูตร เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความเจริญ หรือเพื่อให้เกิดความสิริมงคล ในงานพิธีที่เป็นมงคลต่าง ๆ พระสงฆ์จะต้องสวดมนต์บทนี้เสมอ เรียกกันว่า เป็นบทบังคับก็ว่าได้ เมื่อพระสงฆ์เริ่มต้นสวดมงคลสูตร (อะเสวะนา...) จะเป็นช่วงที่เจ้าภาพจะต้องเดินไปจุดเทียนที่ บาตรน้ำมนต์ จากนั้นประเคนบาตรน้ำมนต์แก่ประธานในพิธีสงฆ์ เมื่อสวดมงคลสูตรจบแล้ว พระภิกษุก็จะ รดน้ำมนต์ ให้แก่ผู้มาร่วมพิธีกรรม เพื่อมอบความเป็นมงคลให้ หรือมอบความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ผู้มาร่วมงานมงคล

ความจริง มงคลสูตร 38 ประการนั้น มีประโยชน์มากถ้านำไปปฏิบัติ (มิใช่การรับแต่น้ำมนต์ที่ประพรม การรับน้ำมนต์โดยไม่ปฏิบัติจะไม่เกิดประโยชน์) จะเป็นมงคลแก่ผู้ปฏิบัติตามอย่างแท้จริง พระพุทธองค์ทรงเทศนาเรียงลำดับข้อไว้อย่างมีระเบียบดียิ่ง เพื่อให้เป็นหลักปฏิบัติตามลำดับอายุของมนุษย์ เริ่มแต่ ปฐมวัย, มัชฌิมวัย และ ปัจฉิมวัย โดยขอยกตัวอย่างให้ท่านผู้อ่านเห็นดังต่อไปนี้
ปฐมวัย
ในที่นี้ขอกำหนดว่ามนุษย์ที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี เรียกว่าปฐมวัย ปกติเป็นวัยที่ยังไม่สมควรจะออกครองเรือนตามลำพังตน ควรเป็นวัยแห่งการศึกษาเล่าเรียน เป็นระยะเวลาของการเตรียมตัวที่จะออกไปครองเรือนในอนาคต มักจะอยู่ในความปกครองของบิดามารดา พวกปฐมวัยควรปฏิบัติตามมงคลสูตรตั้งแต่ข้อ 1 ถึงข้อ 10 อย่างเคร่งครัด คือ
1. ไม่ให้คบคนพาล (เพื่อจะได้ไม่ตกต่ำในทางที่ชั่ว)
2. ให้คบบัณฑิต (เพื่อให้พบแต่ความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต)
3. ให้บูชาบุคคลที่ควรบูชา (เพื่อให้เกิดแบบอย่างที่ดี)
4. ให้อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม (เพื่อสะดวกในการศึกษาเล่าเรียน)
5. ให้สะสมบุญเรื่อยไป (เพื่อเป็นทุนไปสู่ความสุขสำเร็จ)
6. ให้ตั้งตนไว้ชอบ (เพื่อให้มีเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง)
7. ให้เป็นผู้ฟังมาก (เพื่อจะได้มีความรอบรู้)
8. ให้ศึกษา ศิลปวิทยา (เพื่อให้มีพื้นฐานการประกอบอาชีพการงานที่ดี)
9. ให้มีระเบียบวินัยดี (เพื่อให้มีหลักการที่ดีในการดำรงชีวิต)
10. ให้มี วาจาสุภาษิต (เพื่อให้เกิดความมีเสน่ห์ในตัวเอง)

ถ้าผู้ที่มีอายุภายใน 25 ปีแรกของชีวิต ได้ลงมือปฏิบัติตามมงคลสูตรเพียง 10 ข้อ ดังกล่าวนี้ บุคคลเหล่านี้จะเป็นคนดี เข้าไหนเข้าได้ เพราะสังคมต้อนรับ ปราศจากผู้รังเกียจ พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเพื่อประโยชน์แก่ปวงชน ถ้าเราเคารพพระพุทธองค์อย่างแท้จริงแล้ว เราก็สมควรนำมงคลสูตรของพระพุทธองค์มาเป็นข้อปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตของตน ซึ่งนับว่าเป็นมงคลแก่ตนเองเป็นอย่างยิ่ง
มัชฌิมวัย
ในที่นี้ ขอกำหนดว่ามนุษย์ที่มีอายุตั้งแต่ 26 ปี ถึงอายุ 50 ปี เรียกว่าอยู่ในช่วง “มัชฌิมวัย” เป็นวัยที่ต้องดำเนินชีวิตไปตามลำพัง ไม่ควรจะต้องพึ่งบิดามารดาอีกต่อไป ต้องออกไปเผชิญกับเหตุการณ์ของสังคมโลก เป็นวัยที่จะต้องตั้งตัวตั้งหลักฐาน รับผิดชอบในการดำรงชีวิต ในมัชฌิมวัยควรปฏิบัติตามมงคลสูตรเพิ่มขึ้นอีก 20 ข้อ ตั้งแต่ข้อ 11 ถึงข้อ 30 คือ
11. ให้ บำรุงบิดามารดา (เป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณคน)
12. ให้ สงเคราะห์บุตรธิดา (เป็นแบบอย่างที่ดี)
13. ให้ สงเคราะห์ภรรยา (เป็นการแสดงความรับผิดชอบ)
14. ไม่ให้การงานอากูล (กิจการงานใดไม่คั่งค้าง)
15. ให้ บำเพ็ญทาน (จิตใจจะมีเมตตาสูง)
16. ให้ ประพฤติธรรม (เพื่อความสงบของชีวิต)
17. ให้ สงเคราะห์ญาติ (เกิดเคราะห์ร้ายก็มีญาติช่วย)
18. ให้ ประกอบการงานดี ไม่มีโทษ (อาชีพสุจริตชีวิตปลอดภัย)
19. ให้ เว้นจากการทำบาป (เพื่อไม่ต้องชดใช้หนี้กรรม)
20. ให้ เว้นจากการเสพของเมา (ให้เป็นคนมีสติอยู่เสมอ)
21. ไม่ให้ประมาทในธรรมทั้งหลาย (ให้มีความคิดรอบคอบ)
22. ให้ เคารพบุคคลที่ควรเคารพ (เราจะได้รับความเคารพตอบ)
23. ไม่ให้เย่อหยิ่ง (จะมีคนให้ความนับถือ)
24. ให้ มีสันโดษ (จิตใจจะไม่วุ่นวาย)
25. ให้ มีความกตัญญู (เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดี)
26. ให้ ฟังธรรมตามกาล (เพื่อให้มีดวงตาเห็นธรรม)
27. ให้ มีขันติ (จิตใจจะมีความสุขสงบ)
28. ให้ เป็นผู้ว่าง่าย (ทำให้ได้รับความรักจากผู้อื่น)
29. ให้ เข้าหาสมณะผู้สงบ (ทำให้เข้าใจธรรมะที่แท้จริง)
30. ให้ สนทนาธรรมตามกาล (ทำให้มีปัญญาเพิ่มพูล)

ถ้ามนุษย์อายุระหว่าง 26 ปี ถึง 50 ปี ได้ลงมือปฏิบัติตามมงคลสูตรของพระพุทธองค์เพิ่มขึ้นอีก 20 ข้อ ตั้งแต่ข้อ 11 ถึงข้อ 30 ดังกล่าวนี้ บุคคลเหล่านั้นจะประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรืองในการดำรงชีวิต จะไม่ประสบความทุกข์ แม้ในขณะที่ถึงอายุขัยที่จะตาย วิญญาณก็จะไปสู่สุคติโลกสวรรค์ ถ้าจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะได้เกิดเป็นมนุษย์ที่มีฐานะสูง ถ้าเราเคารพพระพุทธองค์อย่างแท้จริงแล้ว เราก็สมควรนำมงคลสูตรของพระพุทธองค์มาเป็นข้อปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตของตน ความเป็นมงคลก็จะเกิดแก่ตนเองและครอบครัว
ปัจฉิมวัย
ในที่นี้ ขอกำหนดว่ามนุษย์มีอายุตั้งแต่ 51 ปี ถึงสิ้นอายุขัย เป็นระยะชีวิตที่จะต้องช่วยตัวเองแสวงหา อริยทรัพย์ อริยสมบัติ เพราะเป็นช่วงเลยกึ่งกลางของชีวิต เดินทางเข้าสู่บั้นปลายของชีวิตเหมือนต้นไม้ใกล้ฝั่ง จะล้มลงเมื่อใดก็ได้ ควรจะช่วยตนเองในการสร้างอริยสมบัติก่อนตาย ซึ่งไม่มีใครจะช่วยเราได้ โดยช่วยให้วิญญาณของเรามีคุณสมบัติสูงกว่าเดิม วิธีช่วยตัวเองนับว่าดีที่สุดนั้น คือการหาโอกาสฝึกอบรมพัฒนาจิตใจ ด้วยการวิปัสสนากรรมฐาน อาจจะศึกษาเรื่องความตายเพื่อจะได้ตายนอกสมมติ คือการหลุดพ้นจาก สังสารวัฏ ไม่ควรให้ตายในสมมติคือการหมุนเวียนอยู่ในวัฏสงสารเท่านั้น การตายในสมมตินั้น จะต้องกลับมาเกิดเพื่อรับความทุกข์ต่อ ๆ ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด วิธีปฏิบัติเพื่อให้ตายนอกสมมตินั้น คือการปฏิบัติตามมงคลสูตรของพระพุทธองค์ โดยปฏิบัติเพิ่มขึ้นอีก 8 ข้อ ตั้งแต่ข้อ 31 ถึงข้อ 38 คือ
31. ให้บำเพ็ญเพียรเผากิเลสให้หมดไป (ด้วยการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน)
32. ให้ ประพฤติพรหมจรรย์ (ออกบวช หรือ บวชใจด้วยเนกขัมมบารมี)
33. ให้เห็นแจ้งในอริยสัจ (ให้ตระหนักรู้ในทุกข์ และเหตุที่เกิดทุกข์ การดับทุกข์ และวิธีดับทุกข์)
34. ให้ทำนิพพานให้แจ้ง (วิปัสสนาภาวนาจนได้นิโรธสมาบัติ)
35. ไม่ให้จิตหวั่นไหวในโลกธรรม (ทำจิตไม่ให้ติดยึดในลาภ/ยศ/สรรเสริญ/สุข)
36. ไม่ให้จิตเศร้าหมอง (ทำจิตให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน)
37. ไม่ให้จิตมีมลทิน (ทำจิตให้เป็นอุเบกขาตลอดเวลา)
38. ให้มีจิตเกษม (ไม่ให้มีเครื่องดึงรั้งไว้ในภพคือถึงซึ่งพระนิพพาน)

มงคลสูตรของพระผู้มีพระภาคเจ้า ตั้งแต่ข้อ 31 ถึงข้อ 38 นี้ มีพุทธประสงค์จะให้ช่วยตัวเองไปทาง โลกุตตรธรม ช่วยให้ตายนอกสมมติ คือการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เป็นการหลบหนีการเกิด เพราะว่า พระตถาคต สั่งสอนให้ตระหนักว่า “การเกิดเป็นทุกข์” ชาวพุทธที่มีอายุตั้งแต่ 51 ปีขึ้นไป เมื่อบุตรธิดามีอาชีพการงาน หรือสามารถดำรงชีวิตได้ตามลำพังแล้ว หรือ ทรงตัวได้ดีบนขาของเขาได้แล้ว ชาวพุทธผู้มีอายุสูงก็สมควรช่วยตนเองไปในทาง โลกุตตรวิสัย ควรฝึกอบรมพัฒนาจิตใจ ด้วยการวิปัสสนากรรมฐานให้มาก และให้บ่อย หากปฏิบัติตามมงคลสูตรของพระพุทธองค์เช่นนี้ ความเป็นมงคลก็จะเกิดแก่วิญญาณของตน เมื่อกายแตกละจากโลกนี้ไป วิญญาณของตนก็จะไปสู่ สุคติภูมิ หรือพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
ถ้าเราสมมติว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นแม่ครัว พระพุทธองค์ทรงปรุงอาหารไว้ เพื่อคน 3 วัย วัยแรกเพื่อให้มนุษย์ในปฐมวัยได้บริโภค วัยที่ 2 เพื่อให้มนุษย์ในมัชฌิมวัยได้บริโภค และวัยที่ 3 ปรุงไว้ให้มนุษย์ในปัจฉิมวัยได้บริโภค แต่มนุษย์จะบริโภค หรือไม่บริโภคนั้น เป็นเรื่องของมนุษย์ที่สามารถเลือกเส้นทางของตนเองได้ พระตถาคต ได้แต่ทรงปรุงอาหารไว้ให้เท่านั้น และทรงชี้ทางให้โดยมีพระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่เท่านั้น
จึงขออนุญาตเชิญชวนเพื่อนพนักงานทุกระดับ และทุกท่าน หันมาบริโภคอริยทรัพย์ด้วยการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ คิดดี พูดดี และทำดี ให้ตลอดอายุขัยของเรา นับแต่บัดนี้เป็นต้นไปเถิด

14/9/54

สถานที่ท่องเที่ยว


รวมปฏิทินท่องเที่ยว (ก.ย.)

กันยายนเดือนนี้ ถือเป็นอีกเดือนหนึ่งที่มีเทศกาลและประเพณีน่าสนใจตามจังหวัดต่างๆ มากมาย จนวางแผนการท่องเที่ยวไม่ถูกเลยทีเดียว วันนี้Blogของเราจึงรวบรวมกิจกรรม และงานเทศกาลที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้มาฝากกัน

เทศกาลลางสาดหวานและมหกรรมของดีเมืองอุตรดิตถ์

การจัดร้านนิทรรศการของดีแต่ละอำเภอ จากหน่วยงานราชการ และภาคเอกชน นิทรรศการด้านท่องเที่ยว การจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึก สินค้าแปรรูปทางการเกษตร การแสดงและจำหน่ายสินค้าจากโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมด้านการเกษตร กิจกรรมตลาดนัดลางสาดและผลไม้ การประกวดขบวนรถแห่ผลไม้ การประกวดธิดาลางสาด การประกวดลางสาด และผลิตผลทางการเกษตร การท่องเที่ยวเชิงเกษตรจัดนำเที่ยวสวนลางสาดแบบไป-กลับ และพักค้างคืนแบบ Home Stay งานสะโตกประยุกต์ การแสดงวัฒนธรรม การละเล่นพื้นบ้าน การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การประกวดสวนถาดพืชผักสวนครัว สวนถาดไม้ดอกไม้ประดับ สวนครัวลอยฟ้า การประกวดกระเช้าผลไม้ และมหรสพการแสดงมากมาย วันที่ 1 กันยายน 2553 ณ สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก จ. อุตรดิตถ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์ โทร. 0-5541-2729 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่ โทร. 0-5452-1118 - 9, 0-5452-1127

ครบรอบ 50 ปี อนุสาร อ.ส.ท.

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอเชิญนักท่องเที่ยวและผู้ชื่นชอบนิตยสารด้านท่องเที่ยว ร่วมงาน "ครบรอบ 50 ปี อนุสาร อ.ส.ท." ระหว่างวันที่ 2 - 6 กันยายน 2553 ณ โซน A ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว สำหรับพิธีเปิดงาน "ครบรอบ 50 ปี อนุสาร อ.ส.ท." จะจัดขึ้นในวันที่ 3 กันยายน 2553 เวลา 16.00 น. โดยมี นายสุรพล
 เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. เป็นประธานในพิธี พร้อมเปิดตัว Osotho E-magazine อย่างเป็นทางการ ในโอกาสเดียวกันนี้ยังจัดทำโล่สำหรับแฟนตัวจริงอนุสาร อ.ส.ท. และอย่าพลาดชมนิทรรศการสวยๆซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยว ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.osotho.com หรือ โทรเบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
งาน "สืบสาน...สีสัน...สายเส้น เบญจรงค์ดอนไก่ดี"

จุดกำเนิดจากลูกจ้างโรงงานชามไก่ ตำบลอ้อมน้อย รวมตัวเป็นชุมชนเล็กๆ ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นจนเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศในนาม "หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี" ณ หมู่ 1 ตำบลดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร และด้วยการสนับสนุนของจังหวัดสมุทรสาคร กระทรวงพาณิชย์ องค์การบริหารส่วนตำบลดอนไก่ดี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนักงานสมุทรสงคราม จึงก่อเกิดงาน "สืบสาน...สีสัน...สายเส้น เบญจรงค์ดอนไก่ดี" ระหว่างวันที่ 3-5 กันยายน 2553 เวลา 10.00 - 22.00 น. ณ ย่านการค้าจังหวัด หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี อำเภอ กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร โทร. 0 3442 6092 หรือ องค์การบริหารส่วนตำบลดอนไก่ดี โทร. 0 3447 0713-4 หรือ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8 E-mail : tatsmsk@tat.or.th หรือ Call Center 1672 เบอร์เดียว
 เที่ยวทั่วไทย

เทศกาลเที่ยวไทย 5 ภาค @ สุราษฏร์ธานี

ททท.สุราษฎร์ธานี เชิญร่วมงานเทศกาลเที่ยวไทย 5 ภาค @ สุราษฏร์ธานี ในวันที่ 3 - 5 ก.ย. 2553 โดยภายในงานจัดให้มีอาหาร OTOP ครบจาก 76 จังหวัด นิทรรศการ 5 ภูมิภาคท่องเที่ยวไทย การแสดงหุ่นละครเล็กนาฏยศาลา (โจ-หลุยส์ ) ตลกคณะโย่งเชิญยิ้ม Concert T-Bone /หลวงไก่/บิวกัลยาณี หนังใหญ่วัดขนอน และการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากภาคเหนือ-กลาง-อีสาน-ใต้-ตะวันออก ฯลฯ

เทศกาลหมูย่างเมืองตรัง

อาหารยอดนิยมในยามเช้าของคนตรัง นอกจากกาแฟและติ่มซำอร่อยๆ แล้ว หมูย่างหนังกรอบรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ถือว่าเป็นอีกอย่างที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารเช้า ยิ่งนักท่องเที่ยวด้วยแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่พลาดกับรายการอาหารมื้อนี้ จนทำให้เป็นที่เลื่องชื่อไปอย่างกว้างขวาง ทำให้มีการจัดเทศกาลหมูย่างเมืองตรังขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกกินกันอย่่างเต็มที่ ซึ่งในงานมีการออกร้านจำหน่ายหมูย่างจากผู้ประกอบการในราคาพิเศษต่ำกว่าท้องตลาด ขบวนพาเหรดแฟนซี การประกวดประกอบอาหารโดยใช้หมูย่าง การแสดงบนเวที การประกวดทีมแดนเซอร์เพลงไทยลูกทุ่ง (ระดับมัธยมศึกษา) และการจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ วันที่ 5 กันยายน 2553 ณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง (หลังเก่า) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หอการค้า จ. ตรัง โทร. 0-7521-0238, 0-7522-5353 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง โทร. 0-7521-5867 - 8, 0-7521-1058, 0-7521-1085

เทศกาลผลไม้ปลอดภัยและสินค้า OTOP เมืองอุตรดิตถ์

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่...ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว และผู้สนใจร่วมงาน "เทศกาลผลไม้ปลอดภัยและสินค้า OTOP เมืองอุตรดิตถ์ปี 2553" หรืองาน "เทศกาลลางสาดหวานและสินค้า OTOP เมืองอุตรดิตถ์ ปี 2553" ซึ่งกำหนดจัดในวันที่ 6 - 15 กันยายน 2553 ณ สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์

เทศกาลอาหารนานาชาติและอาหารไทย 4 ภาค

ภายในงานพบอาหารไทย 4 ภาคและอาหารนานาชาติ ที่คุณ "อยากจะชิม ควรชิม และต้องชิม" กับอาหารประเภทต่างๆ หลากหลาย แต่คล้ายคลึงในแต่ละวัฒนธรรมนำเสนอใน Zone อาหาร 6 กลุ่ม ได้แก่ อาหารจานขนม (น้ำตาล) อาหารจานผัก/เนื้อ อาหารจานเส้น อาหารจานห่อ อาหารจานข้าว อาหารจาน Herb การแข่งขันปรุงอาหารจาก 4 เชฟหล่อ ปะทะ 4 ดารา ทุกวัน พบคนดังกับเส้นทางเมนูที่เป็น Signature Dish ของเขาและเธอ ซึ่งสะท้อนตัวตนในแต่ ละสไตล์ อาทิ Food of life :อาหารต่างชาติ วัฒนธรรม กับวิถีชีวิตไทย-เทศ food stylist ที่ไปดังไกลถึงต่างชาติ Food of love : รับรู้ รับฟัง แบ่งปันประสบการณ์เรื่องราวเส้นทางรัก นักกินของแขกรับเชิญ ในวันที่ 10 - 12 ก.ย. 2553 ญ สยามพารากอน สอบถามรายละเอียดเพิื่่มเติมได้ที่ 022505500

Smile @ Khao San Road

กิจกรรม 9 เวที คอนเสิร์ตศิลปินดัง อาทิ กอล์ฟ-ไมค์ / แดน วรเวช / K-OTIC / The Richman Toy / Singular / มัม ลาโคนิค / ศิลปินแนวเพลง Indy / Jazz (ฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน) กิจกรรมการละเล่นไทย อาทิ รำวง โปงลาง กิจกรรมประกวดการกอด "กอดเมืองไทย ให้หายเหนื่อย" เช่น พ่อกอดลูก แม่กอดลูก พี่กอดน้อง เพื่อนกอดเพื่อน คู่รักรักไหนกอดได้อย่างสร้างสรรค์และประทับใจคณะกรรมการมากที่สุด Street Show อาทิ การแสดงมายากล การแสดงหน้าขาว โนราตัวอ่อน การแสดงความสามารถพิเศษ ฯลฯ นิทรรศการแนะนำแหล่งท่องเที่ยว การจำหน่ายสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการรวมถึงผู้ค้าภายในย่านถนนข้าวสารในราคาพิเศษ และอาหารชื่อดังจาก 50 เขต นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานสามารถรับของที่ระลึกได้มากมาย เช่น ทัวร์ไหว้พระทางน้ำ 560 รางวัล ทัวร์ 3 เส้นทาง (ภาคเหนือ กลาง อีสาน) 50 รางวัล ในวันที่ 11 - 12 ก.ย. 2553 บริเวณพื้นที่ย่านข้าวสาร - ถนนจักรพงษ์ - ซอยรามบุตรี

งานประเพณีประจำปีวันรำลึก 100 ปี ชาวเกาะสีชัง

การจัดงานรำลึก 100 ปี ชาวเกาะสีชังทั้งเกาะ เพื่อถวายราชสักการะพระปิยมหาราช และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ภายในงานจัดการแสดงแสง เสียง และสื่อผสมชุด "เกาะสีชังมหัศจรรย์ แผ่นดินแห่งรัก" วันที่ 19 - 20 กันยายน 2553 ณ เกาะสีชัง จ. ชลบุรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลตำบลเกาะสีชัง โทร. 0-3821-6201
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา โทร. 0-3842-3990, 0-3842-7667, 0-3842-8750



ประเพณีแข่งเรือจังหวัดน่าน

จังหวัดน่าน ร่วมกับ เทศบาลเมืองน่าน สมาคมเรือแข่งจังหวัดน่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกันจัด "งานประเพณีแข่งเรือจังหวัดน่าน ชิงถ้วยพระราชทานฯ" ประจำปี 2553 ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม 2553 ณ บริเวณเชิงสะพานพัฒนาภาคเหนือ อ.เมือง จ.น่าน สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานจังหวัดอุตรดิตถ์ โทร. 0 5541 1977 ต่อ 21905 สอบถามข้อมูลการเดินทาง และการท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทรศัพท์ 0 5452 1118, 0 5452 1127 ทุกวันในเวลาราชการ

งานประเพณีไหว้พระจันทร์

การประกวด ประดับประดาโต๊ะไหว้พระจันทร์ (โดยตั้งโต๊ะไหว้ที่กลางแจ้ง เอาต้นอ้อย 2 ต้นมาทำซุ้มประตู บนโต๊ะตั้งอาหารเจ ขนมเปี๊ยะไหว้พระจันทร์ ขนมโก๋ ของใช้สำหรับผู้หญิง) การประกวดธิดาพระจันทร์ ชมขบวนแห่ประเพณีไหว้พระจันทร์ วันที่ 22 กันยายน 2553 ณ ต. ทุ่งยาว อ. เมือง จ. ตรัง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลตำบลทุ่งยาว โทร. 0-7528-9510 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง โทร. 0-7521-5867, 0-7521-1058

งานสารทไทย กล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร

กำแพงเพชรนอกจากจะมีเมืองเก่าที่แสนสวยงามแล้ว สินค้าเกษตรยังมีความโดดเด่นอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้วยไข่ที่ขึ้นชื่อลือชาว่ามีความหวาน หอม อร่อยกว่าที่ใดในประเทศไทย ทำให้ผู้ที่ผ่านไปมาเมืองกำแพงเพชรต่างซื้อติดมือกลับบ้่านเสมอ และในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี ทางจังหวัดได้จัดให้มีงานสารทไทย กล้วยไข่เมืองกำแพง ภายในงานได้จัดให้มีการประกวดกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร การแข่งกวนกายาสารท กวนข้าวทิพย์ การจัดนิทรรศการ การจัดแสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และการแสดงมหรสพต่างๆ อีกมากมาย วันที่ 23 กันยายน 2553 ณ ลานโพธิ์ หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองกำแพงเพชร จ. กำแพงเพชร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร โทร. 0-5571-1820 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย โทร. 0-5561-6228 - 9, 0-5561-6366

งานประเพณีบุญสารทเดือนสิบ 

งานประเพณีบุญเดือนสิบจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2466 ที่สนามหน้าเมืองนครฯ และได้กำหนดเอางานทำบุญเดือนสิบมาจัดเป็นงานประจำปี พร้อมทั้งมีการออกร้านและมหรสพต่างๆ การจัดประเพณีบุญเดือนสิบ ถือเป็นความพยายามของลูกหลานที่มุ่งทดแทนพระคุณบรรพบุรุษแม้ว่าจะล่วงลับไปแล้วก็ตาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวไทยทุกคนควรยึดถือปฏิบัติ รวมทั้งปลูกฝังให้อนุชนรุ่นหลังได้ปฏิบัติสืบทอดต่อๆ ไป โดยในงานได้จัดให้มีขบวนแห่หมฺรบจากสนามหน้าเมืองไปยังวัดพระมหาธาตุ พิธียกหมฺรบเพื่ออุทิศส่วนบุญแก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับ ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน นิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐ การออกร้านหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ การประกวดทองโย่ง การประกวดหมาวัด กิจกรรมไหว้พระวันสารท (9 วัด) วันที่ 23 กันยายน 2553 ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ. นครศรีธรรมราช สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครศรีธรรมราช โทร. 0-7534-6515 - 6

Samui International Jazz Music Festival 2010

ฟรีคอนเสิร์ต บนเกาะสมุยใน 3 เวทีหลัก 42 โชว์ ตลอด 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 24-30 กันยายน 2553 งานครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท แอมสยามทราเวล จำกัด, สายการบินบางกอกแอร์เวย์ อบจ.สุราษฎร์ธานี ,สมาคมโรงแรม ,สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย และผู้ประกอบการบนเกาะสมุย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.samuijazzfestival.com/

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ททท. และ นายรอบรู้

แค่เดือน กันยายน เดือนเดียวก็มีกิจกรรมท่องเที่ยวให้เราไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมายจนแทบไปไม่หมดเพราะฉะนั้นก็เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราต้องการแล้วก็จัดเตรียมกระเป๋าเดินทางกันเลย

สถานที่ท่องเที่ยวประจวบ


บางเบิดรีสอร์ท รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดชุมพรมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงมากมาย ทั้งน้ำตก ได้แก่ น้ำตกไชยราช น้ำตกทาร์ซาน น้ำตกไทรคู่ น้ำตกห้วยยาง  ทะเล ได้แก่ ทะเลอ่าวบางเบิด ทะเลบ้านฝั่งแดง ทะเลหาดถ้ำธง ทะเลหาดบ้านกรูด เกาะ ได้แก่ เกาะทะลุ เกาะสิงห์ เกาะสังข์ อีกทั้งยังมี ถ้ำ วัด และอื่นๆอีกมากมาย รับรองว่า ได้เที่ยวกันทั้งวันไม่มีเบื่อแน่นอนครับ


เกาะทะลุ ดำน้ำเกาะทะลุ ทัวร์ดำน้ำเกาะทะลุ ไข่มุกแห่งทะเลอ่าวไทย !!article
เกาะทะลุ แหล่งท่องเที่ยวในประจวบคีรีขันธ์ที่ขึ้นชื่อเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นชั้นดีที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ หากมองจากริมทะเลในอ่าวบางสะพาน คือตั้งแต่อ่าวแม่รำพึงจนถึงบางเบิด จะมองเห็นเกาะทะลุ ซึ่งเป็นเกาะใหญ่อยู่ห่างจากชายฝั่งไปไม่ไกล บนเกาะมีถ้ำทะลุจากด้านหนึ่งของเกาะไปยังอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นและที่มาของชื่อ"เกาะทะลุ"บนเกาะมีชายหาดสวยงามสี่แห่ง มีแหล่งปะการังน้ำตื้นสวยงามให้ชมอยู่รอบเกาะทะลุ
น้ำตกไทรคู่ แหล่งท่องเที่ยว อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบตีรีขันธ์น้ำตกไทรคู่
น้ำตกไทรคู่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบ อยู่ทางทิศตะวันตกของถนนเพชรเกษม บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี น้ำตกไทรคู่แห่งนี้มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นจะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป โดยชั้นที่มีความงามมากที่สุดคือชั้นที่ 5 ซึ่ง น้ำตกในชั้นนี้จะมีลักษณะที่เป็นหน้าผาขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถพบสัตว์ป่าหลายชนิดที่บริเวณน้ำตกอีกด้วย
บางเบิด หาดบางเบิด อ่าวบางเบิด ทะเลบางเบิด ประจวบเล่นแสงและสีที่หาดบางเบิดarticle
สถานที่ที่คนนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุดในอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คงหนีไม่พ้น ชายหาดบางเบิด เพราะว่าได้ชื่อว่ามีหาดทรายสีชมพู และมีเขาบางเบิดที่สวยงามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอ่าวบางเบิด ขอเชิญทุกท่านมาพิสูจน์กันได้ที่ หาดบางเบิด นะครับ 
หว้ากอ สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดประจวบฯพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ แหล่งท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ภายในประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากกรมประมง และสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา นำมาจัดแสดงได้อย่างน่าสนใจ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งสนุกและได้ความรู้อีกแห่งหนึ่ง
วัดทางสาย บ้านกรูด แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ
พระมหาธาตุแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสครองราชย์ครบ 50 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ”ซึ่งปัจจุบัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจ.ประจวบฯ
น้ำตกห้วยยาง สถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์น้ำตกห้วยยาง
อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอบางสะพาน อำเภอทับสะแก และอำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในส่วนที่แคบที่สุดของประเทศ ซึ่งได้รวมจุดเด่นรอบๆ วนอุทยานน้ำตกห้วยยางผนวกเข้าด้วยกัน ซึ่งได้แก่ น้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง ตลอดจนมีสัตว์ป่านานาชนิด เป็นอุทยานแห่งชาติที่พร้อมด้วยป่าเขา น้ำตก ชายหาด เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
เนินสันทรายบางเบิด อ่าวบางเบิดเนินสันทราย สิ่งมหัศจรรย์ของไทย
เนินสันทราย สิ่งมหัศจรรย์ของไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับบางเบิดรีสอร์ท ใครจะเชื่อว่าเนินสันทรายนี้ เกิดจากฝีมือของธรรมชาติ ด้วยความสูง30เมตร ตลอดระยะทางยาว10กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ทอดตัวคู่ขนานกับชายหาดรูปจันทร์เสี้ยว ขนาบข้างด้วยป่าเขา คือ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ออกแบบโดยน้ำและลม
ด่านสิงขร ประจวบคีรีขันธ์ แหล่งท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยด่านสิงขร แคบสุดในแผ่นดินสยาม
ด่านสิงขร เป็นเมืองหน้าด่านของประเทศไทย โดยส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทยตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยทรายซึ่งวัดระยะได้ 10.96 กิโลเมตร วัดตามแนวจากสันปันน้ำของทิวเขาตะนาวศรีจนถึงฝั่งทะเล ตามแนวที่ตัดผ่านหลักกิโลเมตร 340.4 บนถนนเพชรเกษม เป็นแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และมีสินค้าพื้นเมืองหลายชนิด
น้ำตกทาร์ซาน บางเบิดทัวร์ แหล่งท่องเที่ยว อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯน้ำตกทาร์ซาน หรือน้ำตกไชยราชarticle
น้ำตกทาร์ซานหรือน้ำตกไชยราช ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกที่นึง ที่ไม่ไกลจากบางเบิดรีสอร์ทของเรา ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวในชื่อที่ว่า น้ำตกทาร์ซานนั่นเอง มีกิจกรรมให้เล่นสนุกกันได้ทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น กระโดดหอสูง โหนเชือกเถาวัลย์ สไลเดอร์ อีกทั้งยังมีร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนเป็นระยะ โดยเมนูเด็ดของที่นี่คือ ไก่ย่างทาร์ซานซึ่งถ้าหากใครมาแล้วไม่ได้ชิม ถือว่ามาไม่ถึงน้ำตกทาร์ซานนะครับ โดยน้ำตกทาร์ซานจัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และใกล้กับจังหวัดชุมพรอีกด้วย
วัดแก้วประเสริฐ ท่าแอด เที่ยว ทำบุญ จังหวัดประจวบฯวัดแก้วประเสริฐarticle
วัดแก้วประเสริฐเป็นวัดที่สร้างขึ้นบนเนินเขาริมชายทะเลซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขายอดเว้าแหว่งยื่นไปในทะเลปะทิวได้สวยงามมากดั่งภาพเขียน หลวงพ่อจง เจ้าอาวาสได้สร้างสิ่งก่อสร้างแบบไทยและจีนที่สวยงามมากมายสำหรับให้ผู้คนได้สักการะ  สิ่งที่เป็นจุดเด่น ได้แก่ พระนาคปรก 9 เศียร สูง 9.99 เมตร  และพระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งทะเลใต้ สูง 9.99 เมตร  นอกจากนี้ยังมีโบสถ์สีทอง รูปปั้นพระอรหันต์ไทยและจีน รูปปั้นกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์  และสิ่งเคารพอีกมากมาย รวมทั้งมีพิพิธภัณฑ์ของโบราณ มีภาพเขียนสวยงาม ให้ชมด้วย

สถานที่ท่องเที่ยว จ.ปราจีนบุรี


สถานที่ท่องเที่ยว จ.ปราจีนบุรี

     น้ำตกเขาอีโต้   ตั้งอยู่ที่ตำบลเนินหอม น้ำตกเขาอีโต้เป็นธารน้ำที่ไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ความสูงไม่มากนัก สภาพบริเวณโดยรอบเป็นป่าโปร่ง มีน้ำมากเฉพาะในช่วงฤดูฝน
การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกับอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ แต่อยู่เลยไปอีกประมาณ 400 เมตร
     วัดแก้วพิจิตร  ตั้งอยู่ริมฝั่งด้านขวาของแม่น้ำบางปะกง ในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นวัดเก่าแก่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2422 โดยเศรษฐีนีใจบุญชาวปราจีนบุรีชื่อนางประมูลโภคา (แก้ว ประสังสิต) ภรรยาของขุนประมูลภักดี ต่อมาในปี พ.ศ. 2456 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ได้สร้างพระอุโบสถเพิ่มเติม จึงมีลักษณะทางสถาปัตยกรรม และลวดลายประดับอาคารผสมผสานระหว่างศิลปไทย จีน ยุโรป และเขมร สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ ฝาผนังด้านนอกพระอุโบสถมีภาพปูนปั้นเรื่องรามเกียรติ์ ภายในพระอุโบสถมีภาพวาดบนแผ่นผ้าเกี่ยวกับเรื่องราวในพระพุทธศาสนา เช่น ทศชาติชาดก มารผจญ วาดโดยช่างหลวงในรัชกาลที่ 6 ด้านหน้าพระอุโบสถมีอาคารเรียนหนังสือไทยนักธรรมบาลีเป็นอาคารคอนกรีต รูปสถูปโดม ศิลปกรีกหรือโรมันอยู่หลังหนึ่ง นอกจากนั้นภายในวัดแก้วพิจิตรยังมีหอพระไตรปิฎกและศาลาตรีมุขที่ท่าน้ำ บรรยากาศภายในวัดร่มรื่น
     ค้างคาวแม่ไก่วัดบางกระเบา  วัดบางกระเบาอยู่บนถนนสายบ้านสร้าง-บางแตน ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านสร้างประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นวัดของพระเกจิอาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังคือ หลวงพ่อจาด ภายในบริเวณวัดบางกระเบา จะมีค้างคาวแม่ไก่จำนวนนับพันตัวอาศัยอยู่ตามต้นไม้
     ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์  อยู่ในเขตวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์ ตำบลโคกปีบ ภายในวัดมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สันนิษฐานว่าเป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ สถานที่ตรัสรู้จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งนำเข้ามาปลูกเป็นต้นแรก ลำต้นวัดโดยรอบประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า พระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าครองเมืองศรีมโหสถในสมัยขอมเรืองอำนาจทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา จึงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวตรัสรู้ จากเจ้าผู้ครองนครปาตุลีบุตร ประเทศอินเดีย แล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกที่วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี ในวันวิสาขบูชาจะมีงานนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ
     โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ  ตั้งอยู่ที่บ้านโคกวัด ตำบลโคกปีบ เป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน มีเนื้อที่ประมาณ 700 ไร่ ลักษณะของเมืองมีคูเมือง และคันดินกำแพงเมืองล้อมรอบคูน้ำ ภายในเมืองมีโบราณสถาน เนินดิน สระน้ำ บ่อน้ำ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปกว่า 100 แห่ง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี หลักฐานส่วนใหญ่ที่พบมักจะเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เช่น เทวาลัย เทวรูป ศิวลึงค์ โบราณสถานที่สำคัญในเมืองศรีมโหสถประกอบด้วย กลุ่มโบราณสถานกลางเมือง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นหมู่เทวาลัย ฐานก่อด้วยศิลาแลง ด้านบนก่อด้วยอิฐ ด้านหลังมีบ่อน้ำก่อด้วยศิลาแลง โบราณวัตถุที่ขุดพบ ได้แก่ เทวรูปต่าง ๆ และเศษเครื่องปั้นดินเผา สมัยลพบุรี สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ภูเขาทอง เป็นเจดีย์รูปกลม ลักษณะเหมือนโอคว่ำ สมัยทวารวดี โบราณสถานหมายเลขที่ 25 เป็นเทวาลัย รากฐานอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่อด้วยศิลาแลง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-12 โบราณสถานสระแก้ว เป็นโบราณสถานที่เป็นสระน้ำโบราณ สระน้ำขุดลงไปในชั้นของศิลาแลงธรรมชาติ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้นอกเมืองศรีมโหสถ ตัวสระเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีทางลงทำเป็นขั้นบันได ผนังขอบสระทุกด้านมีการแกะสลักภาพนูนต่ำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น รูปช้าง สิงห์ หมู กินรี งูพันเสา สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ชั้นสูง สันนิษฐานว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา อายุราวพุทธศตวรรษ ที่ 6-11
     หลุมเมือง  มีลักษณะเป็นหลุมขนาดต่าง ๆ ขุดเจาะลึกลงไปในพื้นศิลาแลง ไม่ทราบว่าขุดขึ้นในสมัยใด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2451 มีพระราชสันนิษฐานว่า “เป็นหลุมสำหรับโขลกปูนที่จะปั้นลวดลายเครื่องประดับปรางค์ปราสาท” มีหลุมทั้งหมดประมาณ 48 หลุม แต่คำบอกเล่าของคนรุ่นเก่ากล่าวว่าเป็นหลุมสำหรับเล่นกีฬาพื้นบ้าน เรียกว่า การเล่นหลุมเมือง
     อนุสาวรีย์ลายฝีพระหัตถ์  ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองโพรง อนุสาวรีย์ลายฝีพระหัตถ์นี้เป็นลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้เสด็จประพาสปราจีนบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2451 ทรงจารึกไว้บนแผ่น ศิลาแลง ซึ่งเป็นซากโบราณวัตถุสมัยลพบุรี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-13
     น้ำตกตะคร้อ และน้ำตกสลัดได  ตั้งอยู่ที่บ้านตะคร้อ ตำบลบุฝ้าย น้ำตกตะคร้อ อยู่ห่างจากด่านตะคร้อ ประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นแก่งน้ำกว้าง มีสะพานแขวนทอดข้ามน้ำตกตะคร้อ ฝั่งซ้ายของลำธารเป็นเนินเขา ส่วนทางด้านฝั่งขวาเป็นป่าโปร่ง เหมาะแก่การพักผ่อน จากน้ำตกตะคร้อมีทางเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึง น้ำตกสลัดได เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม หากจะเดินทางเข้าไปชมน้ำตกสลัดไดควรติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจาก หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10 ที่ตั้งอยู่บริเวณน้ำตกตะคร้อ
     น้ำตกธารทิพย์  ตั้งอยู่ที่บ้านเนินหินตั้ง ตำบลหนองแก้ว เป็นธารน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินต่างระดับ บางช่วงไหลผ่านลานหินบริเวณกว้าง บางช่วงเป็นแอ่งน้ำลึก สามารถลงเล่นน้ำได้ มีลานหินสำหรับนั่งพักผ่อน ฝั่งซ้ายของลำธารลักษณะค่อนข้างสูงชัน สภาพโดยทั่วไปยังเป็นป่าที่คงความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างดี
     นกเป็ดน้ำหนองปลาแขยง อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 33 ระหว่างช่วงอำเภอประจันตคาม-กบินทร์บุรี บริเวณกิโลเมตรที่ 206-207 ทางซ้ายมือจะมีหนองน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 400 ไร่ ในระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีนกเป็ดน้ำมาอาศัยเป็นจำนวนมากนับพันตัว
     แก่งหินเพิง  ตั้งอยู่ที่ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่สวยงามอยู่ในลำน้ำใสใหญ่ อยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 อำเภอนาดี เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงที่เหมาะแก่การล่องเรือยางที่ท้าทาย และสนุกสนาน ในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำหลาก ล้นแก่ง และไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆเหมาะสำหรับการล่องแก่งหินเพิง หากพ้นช่วงฤดูฝนไปแล้วแก่งหินเพิงนี้จะกลายเป็นลานโขดหินกว้างใหญ่ การล่องแก่งหินเพิงจะผ่านแก่งต่าง ๆ ได้แก่ แก่งหินเพิง แก่งวังหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังไทร แก่งงูเห่า ใช้ระยะเวลาในการล่องแก่งประมาณ 45 นาที นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรมในการล่องแก่งหินเพิง และสามารถพักค้างแรมแบบแค้มปิ้ง หรือพักรีสอร์ทในเขตอำเภอนาดีได้
     น้ำตกเหวนรก  อยู่บนเส้นทางสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ของจังหวัดปราจีนบุรี นครนายก นครราชสีมา และสระบุรี เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวย ความสูงประมาณ 60 เมตร และมีหน้าผาสูงชัน น้ำไหลแรงสู่หุบเหวเบื้องล่างในช่วงฤดูฝน